บทบาทของดิเกร์ฮูลูต่อการ...

267
Ref. code: 25595307030568QWD บทบาทของดิเกร์ฮูลูต่อการพัฒนาในจังหวัดยะลา โดย นางสาวอ้อมดาว ลอยสุวรรณ์ วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารมวลชน คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2559 ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร

Transcript of บทบาทของดิเกร์ฮูลูต่อการ...

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    บทบาทของดิเกร์ฮูลูตอ่การพัฒนาในจังหวัดยะลา

    โดย

    นางสาวอ้อมดาว ลอยสุวรรณ์

    วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารมวลชน

    คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2559

    ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    บทบาทของดิเกร์ฮูลูตอ่การพัฒนาในจังหวัดยะลา

    โดย

    นางสาวอ้อมดาว ลอยสุวรรณ์

    วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารมวลชน

    คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2559

    ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    THE ROLE OF DIKIR HULU IN DEVELOPMENT IN YALA PROVINCE

    BY

    MISS AOMDAW LOYSUWAN

    A THESIS SUBMITTED IN PARTIAL FULFILLMENT OF THE REQUIREMENTS FOR THE DEGREE OF MASTER OR ARTS PROGRAM IN MASS COMMUNICATION

    FACULTY OF JOURNALISM AND MASS COMMUNICATION THAMMASAT UNIVERSITY

    ACADEMIC YEAR 2016 COPYRIGHT OF THAMMASAT UNIVERSITY

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (1)

    1

    หัวขอวิทยานิพนธแ บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา ชื่อผูเขียน นางสาวออมดาว ลอยสุวรรณแ ชื่อปริญญา วารสารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา/คณะ/มหาวิทยาลัย สื่อสารมวลชน

    วารสารศาสตรแและสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรแ

    อาจารยแที่ปรึกษาวิทยานิพนธแ รองศาสตราจารยแ จําเริญลักษณแ ธนะวังนอย ปีการศึกษา 2559

    บทคัดย่อ

    การศึกษาวิจัยเรื่อง “บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา” ผูศึกษามีวัตถุประสงคแที่จะศึกษากระบวนการสื่อสารของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา รวมถึงบทบาทของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา ซึ่งไดใช ทฤษฎีการสื่อสาร ทฤษฎีเกี่ยวกับการรับรู ทฤษฎีการโนมนาวใจ แนวคิดการสื่อสารเพ่ือการพัฒนา และแนวคิดสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลู มาเป็นกรอบในการศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้ผูศึกษาไดใชระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใชวิธีการสัมภาษณแเจาะลึก (In-depth Interview) และการลงสังเกตการณแภาคสนาม (Field Observation) กลุมตัวอยางเป็นผูที่มีสวนเกี่ยวของ ไดแก ศิลปินดิเกรแฮูลู ซึ่งเป็นหัวหนาคณะดิเกรแฮูลู 3 คณะ เจาหนาที่หนวยงานราชการศิลปวัฒนธรรมจังหวัดยะลา เจาหนาที่หนวยงานเทศบาลนครยะลา และผูชมดิเกรแฮูลู จํานวน 14 คน แบงเป็น 2 กลุม ไดแก กลุมผูที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาเป็นประจํา และกลุมผูที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาไมเป็นประจํา เพ่ือนําขอมูลที่ไดไปประกอบการวิเคราะหแกระบวนการสื่อสารและบทบาทของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา ผลการศึกษาพบวา การสื่อสารดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลามีองคแประกอบ 4 ประการ คือ ผูสงสาร ไดแก ศิลปินดิเกรแฮูลู คณะลูกคู และหนวยงานราชการ ในแตละคณะมีจํานวน 1-2 คน สวนใหญเป็นมุสลิมที่เกิดและเติบโตในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต นับถือศาสนาอิสลาม มีความเขาใจวัฒนธรรมและภาษามลายูอยางลึกซึ้ง ทั้งยังเชื่อวาการเป็นศิลปินดิเกรแฮูลูเกิดมาจากจากสิ่งที่บรรพบุรุษมอบให โดยการแสดงทั้งหมดจะขึ้นอยูกับการจัดการของหัวหนาคณะและหนวยงานราชการ ซึ่งเป็นคนจัดหาโอกาสการแสดงให ดานสารใหความสําคัญในเนื้อรองของเพลงและเนื้อหาของกลอนสดที่จะใชภาษามลายูทองถิ่นและแตงเพลงที่มีเนื้อหาเป็นประโยชนแแกคนในพ้ืนที่ ดานโอกาสในการแสดงในปใจจุบันมีโอกาสในการแสดงในงานของหนวยงานราชการและงานแสดงศิลปวัฒนธรรมและ มีความถ่ีในการแสดงทั่วไปลดลงเนื่องจากการเกิดเหตุการณแความไมสงบ ดานผูรับสาร พบวาปใจจุบัน

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (2)

    2

    ยังมีผูคนใหความสนใจการแสดงดิเกรแฮูลูเพื่อความบันเทิง เพราะสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูมีดนตรีเราใจและการแตงกายสวยงามมากกวาในอดีต ลักษณะผูรับสารมีสัดสวนของเพศหญิงและชายเทากัน มีเชื้อชาติไทย-มลายู สวนใหญเติบโตในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใต นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งลักษณะผูรับสารและผูสง มีความคลายคลึงทําใหเกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีระดับการศึกษาแตกตางกัน มีผูรับสารที่เป็นกลุมพนักงานเอกชนและหนวยงานราชการเพ่ิมมากขึ้น นอกจากนี้มีวัยกลางคนและวัยสูงอายุรับชมการแสดงมากที่สุด การศึกษาบทบาทของดิเกรฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา พบวาดิเกรแฮูลูจะคํานึงถึงผูรับสารเป็นสําคัญ มีการวิเคราะหแชุมชนและโอกาสในการแสดง ในดานบทบาทพบวา บทบาทการใหความบันเทิงยังคงเป็นบทบาทหลัก เพราะการแสดงดิเกรแฮูลูชวยทําใหคนในพ้ืนที่จังหวัดผอนคลายความเครียดจากสถานการณแความไมสงบได บทบาทในการทําหนาที่เป็นตัวประสานความสัมพันธแของบุคคลกลุมตางๆ บทบาทในการถายทอดวัฒนธรรมไปสูคนรุนหลัง บทบาทในการแจงขาวสารหรือรายงานสภาพแวดลอม และบทบาทในการเสริมความรูใหแกชุมชน ซึ่งพบวา การแสดงดิเกรแฮูลูสงผลตอบรับตอผูรับสารคือ การเชื่อถือคําพูดของดิเกรแฮูลูบนเวทีการแสดง ซึ่งเป็นผลการสื่อสารระดับความตระหนักรับรู แตการที่ผูรับสารจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหเป็นไปตามศิลปินจะขึ้นอยูกับ การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแตละคน ค าส าคัญ บทบาทของดิเกรแฮูลู, ดิเกรแฮูลู, การพัฒนา, จังหวัดยะลา

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (3)

    3

    Thesis Title THE ROLE OF DIKIR HULU IN DEVELOPMENT IN YALA PROVINCE

    Author Miss Aomdaw Loysuwan Degree Master of Arts Department/Faculty/University Mass Communication

    Journalism and Mass Communication Thammasat University

    Thesis Advisor Associated Professor Jumrearnluck Tanawangnoi Academic Year 2016

    ABSTRACT

    The objective of the research is to study the communication process of the folk media of Dikir Hulu in Yala Province, including its role in development in Yala Province. It uses theories of communication, perception, and persuasion, concepts of development-oriented communication, and concepts of the folk media of Dikir Hulu as the study framework. This is a qualitative research, using in-depth interviews and field observation. The samples consist of 14 people, i.e. the heads of threeDikir Hulu troupes, officials of art and cultural agencies in Yala Province, and officials of the Yala Municipality. The samples are divided in two groups: those attending Dikir Hulu performances on regular basis and those on a non-regular basis. The information thereby obtained is used as a basis for analysis of the communication process and the role of the folk media of Dikir Hulu in development in Yala Province.

    The finding shows that the DikirHulu communication involves four elements: the message senders, Dikir Hulu artists, chorus, and government agencies. Each troupe consists of 1-2 members. They are mostly Muslims who were born and bred in the southern border provinces. Their religion is Islam and, therefore, have a profound understanding of Malay culture and language. They believe that to be a DikirHulu artist is something passed on by their ancestors. It is the job of the troupe heads and government agencies to organize performances when an opportunity

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (4)

    4

    arises. The message is found in the lyrics which are sung improvised in a local Malay dialect. The contents of the song are useful to local people. The opportunity to put on a performance today arises when a government agency organizes an art and cultural event. The frequency for the performance is reduced as a result of unrest. Meanwhile, it is found that the message receivers today are still interested in DikirHulu for its entertainment value, as its music is exciting to listen to, and the costume is more beautiful than it was in the former time. The message receivers are male and female of Thai-Malay descent in equal proportion. They mostly grow up in the southern border provinces with Islam as their religion. The message receivers and senders have a lot of similarities, resulting in effective communication despite having different education levels. The message receivers today consist of more and more workers in the private and government sectors. In addition, the performances are attended most by middle-aged and senior people.

    With regard to the role of DikirHulu in development in Yala Province, it is found that it attaches importance to and takes into consideration message receivers, including the analysis of the community and opportunity to put on a performance, while the role still mainly focuses on entertainment, as DikirHulu helps take away stress from the local people in an unrest situation. It also has a role in coordinating inter-personal relationship between various groups in the transfer of culture to the next generation, communicating information or reporting the circumstances, and enhancing the knowledge of the people. It is found that.

    The performance of DikirHulu affects the message receivers who believe what they hear from the actors on the stage. This is communication at a perception level. Whether or not the receivers will change their behaviors as suggested by the artists will depend on each individual to do so.

    Keywords: role of Dikir Hulu, Dikir Hulu, Development, Yala Province

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (5)

    5

    กิตติกรรมประกาศ

    ถาวิทยานิพนธแเลมนี้เปรียบเสมือนการเดินทาง มันคงเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดเทาฉันเคยพบ แตในที่สุดฉันไดพบจุดหมายปลายทาง ขอขอบพระคุณทุกทานที่คอยสนับสนุนและชวยเหลือ

    ฉันขอบคุณตัวฉันเองที่ทําใหฉันคนพบและเติบโต ฉันขอบคุณรองศาตราจารยแ จําเริญลักษณแ ธนะวังนอย อาจารยแที่ปรึกษาวิทยานิพนธแ

    ซึ่งคอยชวยออกแบบ ขัดเกลา ปรับแตง ตลอดจนเคี่ยวกรําใหงานออกมาสมบูรณแแบบที่สุด นอกจากนี้ขอบพระคุณผูชวยศาสตราจารยแ ดร.พจนา ธูปแกว ประธานกรรมการสอบวิทยานิพนธแ อาจารยแ ดร.อนุชา ทีรคานนทแ กรรมการสอบวิทยานิพนธแ และรองศาสตราจารยแดวงพร คํานูณวัฒนแ กรรมการสอบวิทยานิพนธแ ที่เห็นในคุณคาในงานวิจัยของฉัน และชวยกันระดมความคิด เรียบเรียงประเด็น ตาง ๆ เพื่อใหงานวิจัยของฉันออกมาสมบูรณแแบบมากยิ่งขึ้นกวาเดิม

    ขอบคุณแหลงขอมูลดิเกรแฮูลู เริ่มจากศิลปินดิเกรแฮูลู ไดแก นายหะมะ แบลือแบ นางสาวไซนุง ตายี นายอุสมาน มะยาโก฿ะ ที่คอยชวยเหลือใหขอมูลอยางละเอียด พรอมทั้งใหประสบการณแความสนุกแกฉัน

    ขอบคุณผูชมการแสดงดิเกรแที่เดินทางมารับชมการแสดงในวันที่ฉันลงพ้ืนที่ ขอบคุณเจาหนาที่ของหนวยราชการศิลปวัฒนธรรมจังหวัดยะลา และเจาหนาที่ของหนวยงานเทศบาลนครยะลา อ.ภิญโญ เวชโช ที่คอยชี้แนะการทําวิจัยเชนนี้ และนองกอย กับ นองรัตนแที่คอยชวยเหลือแปลบทเพลงดิเกรแฮูลูให และท่ีขาดไมไดคือ ขอบคุณพอแม ที่คอยผลักดันและโอบอุมฉันใหไดมาถึงจุดนี้ ขอบคุณญาติพ่ีนองที่คอยเอาใจใสในความเป็นอยู เจิน ชเลฝใน ผูที่เขาใจและใหกําลังใจ พวกแกงสแจากคายบมเพาะฯ ที่คอยแวะมาหาและฟใงเราปรับทุกขแ แกงสแ G5 ป.โท และเพ่ือนรุนเดียวกันที่สูมาดวยกัน ขอบคุณผูที่ผานเขามาในชีวิตในระหวางเวลาที่ฉันทําวิจัย แมบางคนหลนหายแลว และมีคนหนึ่งที่ยังอยากใหอยูตอ ขอบคุณที่มาชวยทดสอบศักยภาพของตัวฉันเอง ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารยแในหัวใจ ที่ทําใหฉัน รูจักคิด รูจักคอย และทนอด ได สิ่งไดเรียนรูคือ การกาวผานขีดจํากัดของตนเอง เพ่ือนําไปสูการคนพบเสนทางเสนใหมของชีวิต แตยังไงการวิจัยฉบับนี้ ก็เป็นการเดินทางที่ลืมไมลงจริงๆ

    นางสาวออมดาว ลอยสุวรรณแ

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (6)

    6

    สารบัญ

    หนา บทคัดยอภาษาไทย (1) บทคัดยอภาษาอังกฤษ (3) กิตติกรรมประกาศ (5) สารบัญภาพ (11)

    บทที่ 1 บทนํา 1

    1.1 ความเป็นมาและความสําคัญของการศึกษาวิจัย 1 1.2 ปใญหานําวิจัย 4 1.3 วัตถุประสงคแการศึกษาวิจัย 5 1.4 ขอบเขตการศึกษาวิจัย 5 1.5 นิยามศัพทแ 5 1.6 ประโยชนแที่คาดวาจะไดรับ 6 1.7 ขอจํากัดในการศึกษา 6

    บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวของ 8

    2.1 ทฤษฎีการสื่อสาร 8 2.2 ทฤษฎีเกี่ยวกับการรับรู 19 2.3 ทฤษฎีการโนมนาวใจ 21 2.4 แนวคิดการสื่อสารเพ่ือการพัฒนา 24 2.5 แนวคิดเก่ียวกับสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลู 29 2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวของ 37

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (7)

    7

    บทที่ 3 ระเบียบวิธีวิจัย 42

    3.1 ประชากรและกลุมตัวอยาง 42 3.1.1 กลุมผูสงสาร 42

    3.1.1.1 ศิลปินดิเกรแฮูลู 42 3.1.1.2 เจาหนาที่ของหนวยงานราชการ 43

    3.1.2 กลุมผูรับสาร 44 3.2 พ้ืนที่ในการศึกษา 45 3.3 วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล 45

    3.3.1 ขอมูลปฐมภูมิ (Primary Data) 45 3.3.2 ขอมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) 45

    3.4 การวิเคราะหแขอมูล 46 3.5 เครื่องมือที่ใชในการวิจัย 46

    3.5.1 แนวคําถามในการสัมภาษณแแบบเจาะลึกสําหรับคณะดิเกรแฮูลู 47 3.5.2 แนวคําถามในการสัมภาษณแแบบเจาะลึกสําหรับกลุมเจาหนาที่ของ 47

    หนวยงานราชการ 3.5.3 แนวคําถามในการสัมภาษณแแบบเจาะลึกสําหรับกลุมผูชมการแสดง 47

    ดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 3.5.3.1 ประเด็นคําถามที่เก่ียวกับกระบวนการสื่อสารของสื่อพ้ืนบาน 48

    ดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา (1) กลุมคณะดิเกรแฮูลู 48 (2) กลุมเจาหนาที่ของหนวยงานราชการ 48 (3) กลุมผูชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 48

    3.5.3.2 ประเด็นคําถามเกี่ยวกับบทบาทในการสื่อสารเพ่ือการพัฒนา 49 ดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา

    (1) กลุมคณะดิเกรแฮูลู 49 (2) กลุมเจาหนาที่ของหนวยงานราชการ 49 (3) กลุมผูชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 50

    3.6 การนําเสนอขอมูล 51

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (8)

    8

    บทที่ 4 การสื่อสารของดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 52 4.1 ผูสงสาร (Sender) 52

    4.1.1 ผูแสดง 52 4.1.1.1 หัวหนาคณะ 52 4.1.1.2 คณะลูกคูดิเกรแฮูลู 54

    (1) นักลีลาหรือผูแสดงประกอบจังหวะลีลา 54 (2) นักรองหรือผูรองเพลง 55 (3) นักดนตรีหรือผูเลนดนตรี 55

    4.2 สาร (Message) 65 4.2.1 เครื่องดนตรี 65 4.2.2 เครื่องแตงกาย 67 4.2.3 รปูแบบในการแสดง 68

    4.2.3.1 ลักษณะการแสดง 68 4.2.3.2 ขนบนิยมในการแสดง 69

    (1) การเปิดการแสดงหรือโหมโรง 69 (2) รูปแบบการประชันระหวางคณะ 71 (3) การอําลากอนจบการแสดง 72

    4.3 ชองทางการสื่อสาร (Channel) 76 4.3.1 สถานที่แสดง 76 4.3.2 โอกาสในการแสดง 79

    4.3.2.1 งานบาน 79 4.3.2.2 งานของหนวยงานของรัฐ 80 4.3.2.3 งานแสดงศิลปวัฒนธรรม 81 4.3.2.4 งานทั่วไป 81

    4.3.3 ความถี่ในการแสดง 81 4.4 กลุมผูรับสาร (Receiver) 82

    4.4.1 ผูชมที่เป็นมุสลิมที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาเป็นประจํา 83 4.4.2 ผูชมที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาไมเป็นประจํา 87

    4.5 ผลตอบรับของผูรับสาร 88 4.5.1 กระแสความนิยมของผูรับสาร 88

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (9)

    9

    4.5.1.1 ความคิดเห็นของศิลปินตอกระแสความนิยมของผูรับสาร 88 (1) ผูชมที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาเป็นประจํา 90 (2) ผูชมที่สนใจรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาไมเป็นประจํา 91

    4.5.1.2 ความคิดเห็นของผูรับสารที่มีตอศิลปินดิเกรแฮูลู 92 4.5.1.3 ความคิดเห็นของผูรับสารที่มีตอการแสดง 94

    บทที่ 5 บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา 99

    5.1 การสื่อสารเพื่อการพัฒนาของดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 100 5.1.1 วิเคราะหแชุมชนและโอกาสในการแสดง 100 5.1.2 การสื่อสารที่เขาใจงาย 103 5.1.3 สรางรูปแบบการแสดงใหโดดเดนและนาสนใจ 105

    5.2 บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา 107 5.2.1 บทบาทในการใหความบันเทิง 107

    5.2.1.1 การผอนคลายอารมณแ 108 5.2.1.2 การสรางอารมณแขัน 108

    5.2.2 บทบาทในการทําหนาที่เป็นตัวประสานความสัมพันธแระหวางบุคคลกลุมตาง ๆ 110 5.2.3 บทบาทในการถายทอดวัฒนธรรมไปสูคนรุนหลัง 116 5.2.4 บทบาทในการแจงขาวสารหรือการรายงานสภาพแวดลอม 119 5.2.5 บทบาทในการเสริมสรางความรูใหแกชุมชน 122

    บทที่ 6 สรุปผลการศึกษา อภิปรายผล และขอเสนอแนะ 130

    6.1 สรุปผลการศึกษา 131 6.1.1 การสื่อสารเพื่อการพัฒนาของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 131

    6.1.1.1 องคแประกอบของการสื่อสารของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 131 6.1.1.2 บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา 136

    (1) วิธีการสื่อสารของดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 136 (2) บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา 136

    6.2 อภิปรายผล 138 6.3 ขอเสนอแนะ 149

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (10)

    10

    6.4 ขอเสนอแนะในการศึกษาครั้งตอไป 149 รายการอางอิง 150 ภาคผนวก 155 ประวัติผูเขียน 251

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    (11)

    11

    สารบัญภาพ

    ภาพที่ หนา 2.1 แบบจําลองการสื่อสารของเดวิด เค เบอรแโล (David K. Berlo) 11 2.2 รูปแบบของกระบวนการสื่อสาร 14 2.3 กรอบการศึกษา 41 4.1 ผังการแสดง รูปแบบที่ 1 77 4.2 ผังการแสดง รูปแบบที่ 2 77 4.3 ผังการแสดง รูปแบบที่ 3 79

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    1

    1

    บทที่ 1 บทน า

    1.1 ความเป็นมาและความส าคัญของการศึกษาวิจัย

    จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่อยูใตสุดของประเทศไทย หางจากกรุงเทพมหานครตามทาง

    รถไฟสายใต 1,039 กิโลเมตร และตามถนนเพชรเกษมสายเกา 1,395 กิโลเมตร หรือสายใหม 1,084 กิโลเมตร มีพ้ืนที่ประมาณ 4,521 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2.8 ลานไร คิดเป็นรอยละ 6.4 ของพ้ืนที่ภาคใต (สํานักงานจังหวัดยะลา กลุมงานยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัด, 2552, น. 5) จังหวัดยะลามีความหลากหลายทางดานสภาพสังคม โดยเฉพาะดานวัฒนธรรมและภาษา อันเนื่องมาจากประชากรในจังหวัดสวนใหญมากกวารอยละ 85 นับถือศาสนาอิสลาม ยึดถือหลักศาสนาเป็นหลักในการดําเนินชีวิต และใชชีวิตเรียบงายมายาวนาน แตในปใจจุบันจังหวัดยะลาเป็นหนึ่งในสามจังหวัดที่กําลังประสบปใญหาสถานการณแความไมสงบในจังหวัดชายแดนภาคใต

    สถานการณแความไมสงบในจังหวัดชายแดนภาคใตไดทวีความรุนแรงขึ้นมาตั้งแตปี พ.ศ. 2547 เป็นตนมา และสงผลกระทบอยางรุนแรงตอเศรษฐกิจและสังคมในสามจังหวัดชายแดนใต (ยะลา ปใตตานี นราธิวาส) โดยสิ่งที่เห็นเดนชัดคือ ผลกระทบทางดานเศรษฐกิจ ทําใหภาวการณแผลิตหดตัว ผูประกอบการขาดความมั่นใจในการลงทุน มีการเลิกกิจการอยางตอเนื่อง เกิดปใญหาการวางงานสูง ปใญหาความยากจนของประชาชนในพ้ืนที่ ปใญหาความไมเป็นธรรมและความไมปลอดภัยในชีวิตและทรัพยแสินของประชาชน และปใญหาทําใหประชาชนลดความเชื่อมั่นในอํานาจรัฐ อยางไรก็ดี ในดานการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการแกปใญหาจังหวัดชายแดนภาคใต มีสวนสําคัญที่สงผลใหโครงสรางดานเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใตปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น และสามารถรองรับสถานการณแความไมสงบที่สงผลกระทบตอเศรษฐกิจไดพอสมควร (สํานักงานจังหวัดยะลา กลุมงานยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัด, 2552, น. 2)

    เมื่อสรุปภาพรวมปใญหาความตองการของประชาชนในพ้ืนที่และเรียงลําดับความสําคัญของปใญหาในจังหวัดยะลา พบวา อันดับที่หนึ่ง คือ ปใญหาดานเศรษฐกิจ ไดแก ผลผลิตดานการเกษตรราคาตกต่ํา ไมยั่งยืน ปุยมีราคาแพง ขาดการพัฒนาการเพ่ิมมูลคาผลผลิตทางการเกษตร ขาดเอกสารสิทธิ์ที่ดินทํากิน อันดับที่สอง คือ ปใญหาสังคม ไดแก ประชาชนไดรับการศึกษานอย ปใญหายาเสพติดในหมูบาน/ชุมชน อันดับที่สาม คือ ปใญหาดานโครงสรางพ้ืนฐาน ไดแก การคมนาคมไมมีมาตรฐาน ขาดแคลนน้ําในหนาแลง อันดับที่สี่ คือ ปใญหาดานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ไดแก การบุกรุกทําลายปุาและทรัพยากรธรรมชาติ ประชาชนขาดจิตสํานึกในการชวยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม อันดับที่หา คือ ปใญหาดานการทองเที่ยว ไดแก แหลงทองเที่ยวขาดการสนับสนุน

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    2

    2

    การประชาสัมพันธแ และขาดบุคลากรในการบริหารจัดการแหลงทองเที่ยว ประกอบกับเหตุการณแความไมสงบในพ้ืนที่ ทําใหแหลงทองเที่ยวขาดการสนับสนุนดูแลอยางตอเนื่อง (สํานักงานจังหวัดยะลา กลุมงานยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัด, 2552, น. 2)

    จากรายงานวิเคราะหแสถานการณแจังหวัดยะลา สํานักงานสถิติจังหวัดยะลา (แผนพัฒนาจังหวัดยะลา ปี พ.ศ. 2558-2561, น. 28) ไดวิเคราะหแศักยภาพของจังหวัดและสถานการณแแวดลอมตาง ๆ พบวา ปใญหาความมั่นคงของจังหวัดยะลา สามารถสรุปเป็นปใญหาได 2 ประเภท คือ ปใญหาหลัก คือ ปใญหาความไมสงบที่เกิดขึ้นในพ้ืนที่ และปใญหารอง คือ ปใญหาการแพรระบาดของยาเสพติด โดยปใญหาความไมสงบที่เกิดขึ้นในพ้ืนที่จังหวัดยะลาไดเกิดสถานการณแการกอเหตุรุนแรงตั้งแตปี 2547 - กันยายน 2555 มีเหตุการณแรุนแรงเกิดขึ้นจํานวน 2,199 เหตุการณแ สงผลใหการสูญเสียในชีวิตและรางกายเป็นจํานวนมาก สวนปใญหาการแพรระบาดของยาเสพติดนั้น มีปใจจัยเงื่อนไขที่ทําใหปใญหายาเสพติดยังดํารงอยูและขยายตัวเพ่ิมขึ้น มี 2 ปใจจัยหลักสําคัญ คือ (1) มีการนําเขา-สงออกยาเสพติดที่มีกัญชาแหง ยาบา วัตถุออกฤทธิ์ ยาแกไอ ที่มีทั้งพืชกระทอมจากพ้ืนที่อ่ืน ๆ มายังพ้ืนที่จังหวัดยะลาในรูปแบบตาง ๆ (2) ปใญหาการคาและแพรระบาดในพ้ืนที่ ไดแก พ้ืนที่ชุมชนในเขตเมือง เชน เทศบาลนครยะลา และพ้ืนที่ชุมชนเทศบาลตําบล

    จากปใญหาตาง ๆ ในจังหวัดยะลา ทําใหคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) จัดทําแผนพัฒนาจังหวัดยะลา (พ.ศ. 2553-2556) และนําเสนอตอคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุมจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ) ไดวางกลไกการบริหารจัดการ แนวทาง การพัฒนาและตําแหนงเชิงยุทธศาสตรแ พรอมกับกลยุทธแและแผนงานโครงการ มีการวางแผนยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัดใหมีคุณภาพ โดยกําหนดวิสัยทัศนแของจังหวัดยะลา วา “ยะลานาอยู คูสันติ” โดยมีประเด็นยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัดยะลาดังนี้

    ประเด็นยุทธศาสตรแที่ 1 เสริมสรางความยั่งยืนทางดานเศรษฐกิจของจังหวัด ประเด็นยุทธศาสตรแที่ 2 เสริมสรางยะลาสันติสุข ประเด็นยุทธศาสตรแที่ 3 พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน นอกจากนี้ยุทธศาสตรแการพัฒนาจังหวัดยะลามีเปูาประสงคแรวมเพ่ือใหยุทธศาสตรแ

    การพัฒนาสําเร็จลุลวง ไดแก ประการที่หนึ่ง เศรษฐกิจจังหวัดขยายตัวอยางยั่งยืน ประชาชนมีอาชีพและรายไดที่มั่นคงตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประการที่สอง สังคมมีความปรองดอง สมานฉันทแ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยแสิน และเชื่อมั่นศรัทธาภาครัฐ ประการที่สาม คุณภาพการศึกษาสูงขึ้น ประชาชนมีสุขภาพดี มีภูมิคุมกันทางสังคม อยูในสิ่งแวดลอมที่ดี

    นอกจากนี้ จังหวัดยะลายังมีศูนยแอํานวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต (ศอ.บต.) จัดทํายุทธศาสตรแดานการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใตใหสอดคลองกับนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต มีการจัดทําสื่อผลิตสื่อโทรทัศนแ วิทยุกระจายเสียง เพ่ือสรางความ

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    3

    3

    เขาใจในนโยบายและการดําเนินงานของรัฐบาล การเพ่ิมชองทางการสื่อสารในระดับหมูบานโดยสรางเครือขายดานการสื่อสารสรางความเขาใจในชุมชน รวมทั้งเผยแพรศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี ภูมิปใญญาและสิ่งที่ดีงามในทองถิ่นเพ่ือสรางความเขาใจอันดีแกประชาชนชาวไทยและภูมิภาคอ่ืนและตางประเทศ เป็นตน

    แมจังหวัดยะลาเองจะมีสื่อมากมาย ไมวาจะเป็นสื่อโทรทัศนแ สื่อวิทยุ สื่อหนังสือพิมพแ แตสื่อเหลานี้ยังไมสามารถเขาถึงชุมชนไดดีเทาสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลู ซึ่งปใจจุบันประชาชนในพ้ืนที่ยังใหความสนใจชมการแสดงดิเกรแฮูลูตามโอกาสตาง ๆ หนวยงานราชการจึงไดนําดิเกรแฮูลูมารวมในโครงการพัฒนา เพราะสามารถทําหนาที่เป็นสื่อที่เขาถึงประชาชนมากกวาสื่ออ่ืน ๆ

    ดิเกรแฮูลูมีศิลปะการแสดงคลายกับลําตัดของภาคกลาง เรียกวา “ลําตัดมลายู” หรือคนไทยรูจักในนาม “ลิเกฮูลู” หรือ “ดีเกรแฮูลู” และในจังหวัดยะลาถือเป็นแหลงที่มีคณะดิเกรแฮูลูหลายเกาแกซึ่งไดรับการยอมรับและมีชื่อเสียงตั้งแตในระดับทองถิ่นจนถึงในระดับประเทศ โดยมีรูปแบบการแสดงที่แฝงไปดวยสาระและหลักธรรมคําสอนทางศาสนา ใหขอคิด การเตือนสติผูชม จากการสํารวจการแสดงสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูเพ่ือการพัฒนาตั้งแตอดีตจนถึงปใจจุบัน พบวา ระหวางปี พ.ศ. 2495-2500 คณะดิเกรแฮูลูมีบทบาทการพัฒนาของหนวยงานรัฐอยางเป็นทางการ ในฐานะเป็นสื่อพ้ืนบานเพ่ือตอตานลัทธิคอมมิวนิสตแตามนโยบายของรัฐบาลสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ลักษณะการแสดงยังคงนิยมโตตอบคารมกันรุนแรงอยู เชนปี พ.ศ. 2495 มีคณะดิเกรแฮูลูคณะหนึ่ง ชื่อวา “นิโนะ เจาะไอรอง” ชวยเหลือทางราชการในการโฆษณาตอตานลัทธิคอมมิวนิสตแ โดยสํานักงานยูซิสอเมริกาประจําประเทศไทย วาจางใหออกแสดงทุก ๆ อําเภอ ในจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปใตตานี (ภิญโญ เวชโช, 2551, น. 174)

    ในชวงปี พ.ศ. 2546 เป็นตนมา สื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูเริ่มมีชื่อเสียงดิเกรแฮูลูไดรับการยอมรับและเป็นที่รูจักมากข้ึน หลังจากท่ีดิเกรแฮูลูคณะแหลมทรายไดใชดิเกรแฮูลูเป็นสื่อโฆษณาดานการสื่อสารใหกับบริษัทโทรศัพทแมือถือ DTAC ในภาพยนตรแโฆษณาชุดสํานึกรักบานเกิด (วาที ทรัพยแสิน , 2546, น. 49) โดยใชการแสดงดิเกรแฮูลูนําเสนอวิถีชีวิตชาวประมงเป็นสื่อจูงใจใหคนในสังคมรูสึกรักและหวงแหนวัฒนธรรมในทองถิ่น จากโฆษณาชุดนี้ทําใหคนในสังคมไทยสามารถจดจําเนื้อรองและทํานองเพลงได ในเนื้อหาเพลงวา “บานใคร ใครก็รัก บานใคร ใครก็หวง” หลังจากนั้นบริษัทเปุาจินจงก็ไดนําดิเกรแฮูลูคณะ “อะเน฿าะปูยู” อ.แมลาน จ.ปใตตานี ไปรวมแสดงในละครโทรทัศนแเรื่อง “เหนือทรายใตฟูา” เผยแพรทางโทรทัศนแชอง 7 สี ชวงเวลาหลังขาวภาคค่ําวันจันทรแ-อังคาร ของเดือนกันยายน-พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 (วาที ทรัพยแสิน, 2548, น. 50) สงผลใหคณะดิเกรแฮูลูมีโอกาสในการแสดงมากข้ึน และเยาวชนในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนใตหันมาสนใจฝึกดิเกรแฮูลูเพ่ิมขึ้น ปใจจุบัน (2556) ดิเกรแฮูลูในพ้ืนที่จังหวัดยะลาไดมีการพัฒนารูปแบบและเนื้อหาการแสดงใหมีสาระมากขึ้น ลาสุดโครงการของกระทรวงวัฒนธรรมไดจัดการประกวดการแสดงดิเกรแฮูลูได ในโครงการ “รอยใจไทย ใตรมเย็น” เพ่ือเปิดเวทีใหเยาวชนมีสวนรวมใน

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    4

    4

    การเขาประกวดการแขงขัน มีการกําหนดเนื้อรองในหัวขอ “สานสายใยพ่ีนองไทย ชายแดนใตสันติสุข ทุกชุมชนพอเพียง” (ศิลปวัฒนธรรม, http://www.thaipost.net/x-cite/040612/57768)

    แตอยางไรก็ตามจังหวัดยะลายังมีเหตุการณแความไมสงบเกิดขึ้นอยางตอเนื่อง ทําใหหนวยงานของรัฐและเอกชนที่ใชสื่อดิเกรแฮูลูเพ่ือการรณรงคแหรือเผยแพรขาวสารนําดิเกรแฮูลูเขามาใชเป็นไดบางครั้งคราวเทานั้น เชน การจัดงานกาชาดประจําปีจะมีการจัดไดเพียงปีละ 1 ครั้ง สงผลใหโอกาสในการแสดงและการชมดิเกรฮูลูมีจํานวนลดนอยลง โดยเฉพาะในอําเภอเมืองจังหวัดยะลาจะหาชมการแสดงไดยาก และตัวศิลปินดิเกรแฮูลูและคณะอยูอยางกระจัดกระจาย บางคนหันเหไปประกอบอาชีพหลัก ไมมีการรวมตัวกันแลกเปลี่ยนความรูระหวางกันในเรื่องการนําสื่อดิเกรแฮูลูมาใชพ้ืนที่จังหวัดยะลาอยางแทจริง กลับเกิดการตอสูระหวางคณะดิเกรแฮูลูเกากับคณะดิเกรแฮูลูรุนใหม โดยศิลปินดิเกรแฮูลูรุนเกาพยายามรักษาขนบธรรมเนียมเดิมของดิเกรแฮูลู ในขณะที่คณะดิเกรแฮูลูรุนใหมไดทําขนบธรรมเนียมประเพณีบางอยางของดิเกรแฮูลูสูญหาย ยกตัวอยาง การนําแนวเพลงรวมสมัย เชน การนําเนื้อหาเพลงลูกทุง หรือเพลงสตริงเขามาใชในการแสดงดิเกรแฮูลูเป็นสาระสําคัญเพ่ือเป็นตัวชูโรงใหคนสนใจมาใชในการแสดงมากเกินไป ทําใหประชาชนในพ้ืนที่จังหวัดยะลาใหความสนใจกับดิเกรแฮูลูรวมสมัยมากกวาดิเกรแฮูลูรุนเกาซึ่งเนนการรักษาขนบธรรมเนียมการแสดงดิเกรแฮูลูและเนนการใชเนื้อหาที่มีสาระประโยชนแในการแสดง สงผลใหบทบาทดานเนื้อหาสาระลดลงไปจากอดีต

    การที่หนวยงานของรัฐในจังหวัดยะลานําสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูเขามาใชในโครงการพัฒนาพ้ืนที่จังหวัดยะลามากขึ้น ในขณะเดียวกันปใญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดยะลาในปใจจุบันไดทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งปใญหาสถานการณแในพ้ืนที่จังหวัดและปใญหากระแสความทันสมัยที่เขามาในสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูจนทําใหบทบาทหนาที่ของดิเกรแฮูลูเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ผูศึกษาจึงสนใจศึกษา บทบาทการใชดิเกรแฮูลูในฐานะ “สื่อพ้ืนบาน” เพ่ือการพัฒนาในจังหวัดยะลาวา ดิเกรแฮูลูสามารถชวยแกไขปใญหาในจังหวัดยะลาไดอยางไร โดยศึกษาทั้งคณะศิลปินดิเกรแฮูลู ผูผลิต เนื้อหา คํารอง การแสดง และอ่ืน ๆ รวมถึงนโยบายของหนวยงานของรัฐที่ใชดิเกรแฮูลูเป็นสื่อในการพัฒนา ตลอดจนความสนใจและผลตอบรับจากผูชมดิเกรแฮูลู ซึ่งเป็นกลุมประชากรเปูาหมายในกระบวนการพัฒนาเพ่ือลดทอนปใญหาตาง ๆ ในจังหวัดยะลา

    1.2 ปัญหาน าวิจัย

    1. การสื่อสารของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาเป็นอยางไร 2. สื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูมีบทบาทตอการพัฒนาในจังหวัดยะลาอยางไร

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    5

    5

    1.3 วัตถุประสงค์การศึกษาวิจัย 1. เพ่ือศึกษากระบวนการสื่อสารของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลา 2. เพ่ือศึกษาบทบาทของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา

    1.4 ขอบเขตการศึกษาวิจัย การศึกษาวิจัยนี้จะศึกษาบทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา ระหวาง

    เดือนตุลาคม พ.ศ. 2555-กันยายน พ.ศ. 2556

    1.5 นิยามศัพท ์ 1. ดิเกร์ฮูลู หมายถึง สื่อพ้ืนบานชนิดหนึ่งของภาคใต ลักษณะเป็นการละเลนขึ้นบท

    เป็นเพลงประกอบดนตรีและจังหวะตบมือ มีการขับรองโตตอบหรือรองเดี่ยวโดยใชไหวพริบปฏิภาณ คลายกับลําตัดภาคกลางหรือเพลงบอกภาคใต ขอแตกตางระหวางดิเกรแฮูลูกับลิเกทางภาคกลางคือ ดิเกรแฮูลูไมมีการแสดงเป็นเรื่องราวเหมือนลิเกภาคกลาง แตเนนการขับรองรองเดี่ยวหรือโตตอบกันเป็นประเด็นหรือหัวขอที่ตั้งขึ้นในระหวางการแสดง การแสดงในอดีตจะใชเพียงภาษามลายูถิ่นถิ่นถิ่นทองถิ่น ซึ่งเป็นภาษามลายูถิ่นถ่ินถิ่นที่พูดกันในบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใตของประเทศ แตการแสดงดิเกรแฮูลูในปใจจุบันมีการใชภาษาไทยหรือภาษาอ่ืน ๆ เพิ่มเขามาดวย

    2. บทบาท หมายถึง การทําหนาที่ของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูที่มีตอการพัฒนาในมิติทางดานสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไดแก การใหความบันเทิง การใหขอมูลขาวสาร การทําหนาที่เป็นตัวประสานความสัมพันธแระหวางบุคคลกลุมตาง ๆ การใหการศึกษา ในการสรางจิตสํานึกทางการเมือง การถายทอดวัฒนธรรมไปสูคนรุนหลัง การรายงานวิพากษแสภาพเหตุการณแและสังคม และการแสดงเอกลักษณแและตัวตน

    3. การพัฒนาในจังหวัดยะลา หมายถึง แนวทางการเปลี่ยนแปลงโครงสรางทางสภาพพ้ืนที่จังหวัดยะลา โดยการนําเอาโครงการของหนวยงานรัฐผนวกเขากับความตองการของประชาชนในการพัฒนาความรูและความสามารถของประชาชนในจังหวัดยะลา เพ่ือใหประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการชวยเหลือตนเองและชุมชนได นําไปสูการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในดานตาง ๆ เชนดานสังคม ไดแก การศึกษา การสาธารณสุข และดานอาชีพ เป็นตน ดานเศรษฐกิจ ไดแก การพัฒนาแหลงทองเที่ยวทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรม เป็นตน และมิติทางดานการเมือง ไดแก การสรางความปรองดอง สมานฉันทแ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยแสิน เป็นตน

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    6

    6

    4. กระบวนการสื่อสารของสื่อพื้นบ้านดิเกร์ฮูลู หมายถึง การถายทอด หรือแลกเปลี่ยนขาวสารของศิลปินดิเกรแฮูลูหรือนักแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาไปยังผูชม เพ่ือเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมชุมชนของจังหวัดยะลาไปในทางท่ีดีขึ้น โดยศึกษาการสื่อสารตามองคแประกอบของการสื่อสาร ดังนี้

    4.1 ผู้ส่งสาร หมายถึง ศิลปินดิเกรแฮูลู นักแสดงดิเกรแฮูลู มีหนาที่ขับกลอนสดและรองเพลง

    4.2 เนื้อหาสาร หมายถึง เครื่องดนตรี การแตงกาย รูปแบบในการแสดง ในการศึกษานี้จะเนนในเรื่องบทรองดิเกรแฮูลู กลาวคือ เนื้อหาของเพลงที่ใชในการแสดงดิเกรแฮูลู และเนื้อหากลอนสด (กาโร฿ะ) ของศิลปินดิเกรแฮูลู

    4.3 ช่องทางการสื่อสาร หมายถึง โอกาส สถานที่ วัน และเวลาที่ใชในการแสดงในจังหวัดยะลา เชน การแสดงดิเกรแฮูลูเพ่ือการประชาสัมพันธแงานของหนวยงานรัฐจะแสดงตามงานกาชาดประจําปีของจังหวัดยะลา ทั้งนี้เพ่ือใหคนทุกกลุมไดรับทราบการนโยบายของหนวยงานรัฐนั้น ๆ เป็นตน

    4.4 ผู้รับสาร หมายถึง ผูชมการแสดง ที่ไดรับชมการแสดงดิเกรแฮูลูในรูปแบบการแสดงสดในจังหวัดยะลา

    5. ภาษามลายูถิ่น หมายถึงภาษามลายูถิ่นปใตตานี ซึ่งเป็นภาษามลายูถิ่นที่พูดกันในบริเวณพ้ืนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใตของประเทศ รวมทั้งจังหวัดยะลา

    1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

    1. เพ่ือแสดงใหเห็นบทบาทของสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาชุมชนในจังหวัดยะลา 2. เพ่ือเป็นแนวทางในการใชสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในทิศทางที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น 3. เพ่ือเป็นขอมูลสําหรับหนวยงานและผูที่สนใจเพ่ือการสงเสริมและอนุรักษแสื่อ

    พ้ืนบานดิเกรแฮูล ู4. สามารถเป็นแบบอยางในการใชสื่อพ้ืนบานอื่น ๆ เพื่อการพัฒนาในพื้นที่อ่ืน ๆ ตอไป 5. ทําใหเกิดความเขาใจในวัฒนธรรมมุสลิมในจังหวัดยะลาและสภาพพ้ืนที่จังหวัดยะลา

    เพ่ือนําไปสูการจัดโครงการดานพัฒนาที่เหมาะสมกับคนและพ้ืนที่จังหวัดยะลามากขึ้น

    1.7 ข้อจ ากัดในการศึกษา 1. เนื่องจากการศึกษาสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลูในชวงทําการศึกษายังเกิดเหตุการณแความ

    ไมสงบในพ้ืนที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นปใญหาและอุปสรรคในการลงพ้ืนที่เพ่ือเก็บขอมูลภาคสนามเป็นอยาง

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    7

    7

    มาก เพราะเป็นเรื่องของความไมปลอดภัยในชีวิตและทรัพยแสินของผูศึกษา ทําใหผูศึกษาไมสามารถเก็บขอมูลไดทุกพ้ืนที่ในจังหวัดยะลา

    2. เรื่องความแตกตางระหวางภาษาที่ใชของผูศึกษาและกลุมเปูาหมาย โดยเฉพาะผูชมการแสดงที่สวนใหญไมใชภาษาไทยในการสื่อสาร จึงตองถามผานลามผูแปลความอีกตอหนึ่ง ทําใหไมเกิดความชัดเจนของขอมูลบางสวนได

    3. เนื่องจากสภาพพ้ืนที่จังหวัดยะลาเป็นพ้ืนที่สุมเสี่ยง ทําใหผูชมการแสดงดิเกรแฮูลูในจังหวัดยะลาไมมีความตองการที่จะใหขอมูลเชิงลึกแกผูศึกษามากนัก

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    8

    8

    บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

    การศึกษาเรื่อง “บทบาทของดิเกรแฮูลูตอการพัฒนาในจังหวัดยะลา” ไดใชแนวคิด ทฤษฎี

    และงานวิจัยตาง ๆ มาประกอบเป็นแนวทางในการศึกษาวิเคราะหแให เป็นไปตามวัตถุประสงคแที่ตั้งไว โดยแบงแนวคิดและทฤษฎี ดังนี้

    1. ทฤษฎีการสื่อสาร 2. ทฤษฎีเกี่ยวกับการรับรู 3. ทฤษฎีการโนมนาวใจ 4. แนวคิดการสื่อสารเพ่ือการพัฒนา 5. แนวคิดเก่ียวกับสื่อพ้ืนบานดิเกรแฮูลู 6. งานวิจัยที่เกี่ยวของ

    2.1 ทฤษฎีการสื่อสาร การสื่อสาร คือ กระบวนการแลกเปลี่ยนขอมูลและถายทอดความหมาย ความรูสึก

    นึกคิด เจตคติ ตลอดจนประสบการณแระหวางผูสงสาร (Sender) และผูรับ (Receiver) เพ่ือใหเกิด ผลตอบสนองบางประการที่ตรงกับเปูาหมายที่วางไว คือ การเขาใจรวมกัน ความรวมมือ ความตกลงเห็นพองตองกัน ความผสมผสาน ประนีประนอม เป็นตน อันจะนํามาซึ่งความคงอยูและการพัฒนาสังคมของมนุษยแ (จุมพล รอดคําดี, 2529, อางถึงใน นิติธร ทองธีรกุล, 2550, น. 9)

    คํานิยามความหมายของการสื่อสารมีแตกตางกันไป สามารถนําเสนอคํานิยามความหมายของการสื่อสารไว 2 คํานิยาม ใน 2 มุมมอง ดังนี้ (สุรัตนแ ตรีสุกล, 2547, น. 37)

    1. ความหมายของการสื่อสารซึ่งอธิบายกระบวนการสื่อสารประเภทตาง ๆ ในภาพรวมวา “การสื่อสาร” หมายถึง กระบวนการในการถายทอดหรือแลกเปลี่ยนระหวางคูสื่อสาร โดยผานสื่อเพ่ือใหเกิดความเขาใจรวมกัน

    2. ความหมายของการสื่อสารซึ่งเนนกระบวนการสื่อสารระหวางบุคคลเป็นหลัก กลาววา “การสื่อสาร” หมายถึง กระบวนการในการสรางความหมายรวมกันระหวางคูสื่อสารซึ่งมีปฏิสัมพันธแตอกันและกันตอเนื่องตลอดกิจกรรมการสื่อสาร โดยมีวัตถุประสงคแเพ่ือสรางความสัมพันธแและความเขาใจระหวางกัน

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    9

    9

    การสื่อสารตามแบบจําลองของเดวิด เค เบอรแโล (David K. Berlo) ไดเนนความสําคัญขององคแประกอบสําคัญ 4 อยางในกระบวนการสื่อสาร คือ ผูสงสาร สาร ชองทาง ผูรับสาร เนนความสําคัญ คือ การเขารหัสและถอดรหัสในกระบวนการสื่อสาร

    องค์ประกอบของการสื่อสารของเดวิด เค เบอร์โล (David K. Berlo) (สุรัตนแ ตรีสุกล, 2547, น. 73) เรียกแบบจําลองนี้วา SMCR Model แบงออกเป็น 4 ประเภท คือ

    1. ผู้ส่งสาร (Communication Source) หมายถึง บุคคลหรือกลุมบุคคลซึ่งเป็นผูเริ่มตนของกระบวนการในการถายทอดสารไปยังอีกแหลงหนึ่งจะโดยตั้งใจหรือไมตั้งใจก็ตาม ผูสงสารอาจทําหนาที่เป็นแหลงสาร (Source) และ ผูเขารหัส (Encoder) ในเวลาเดียวกัน หรือทําหนาที่เพียงอยางใดอยางหนึ่งก็ได

    ในทรรศนะของเบอรแโล ผูสงสารที่จะสื่อสารอยางมีประสิทธิภาพนั้น ตองประกอบดวยคุณสมบัติ 4 ประการ ไดแก

    1.1 ทักษะในการสื่อสาร (Communication Skill) 5 ประการ แบงเป็นทักษะในการเขารหัส 2 ประการ คือ การเขียนและพูด และทักษะในการถอดรหัส 2 ประการ คือ การอานและฟใง สวนทักษะที่ 5 คือทักษะในการคิดและใชเหตุผลซึ่งเป็นทักษะสําคัญในการเขารหัสและถอดรหัส

    1.2 ทัศนคติ (Attitude) ความโนมเอียงของคนในการเขาถึงหรือหลีกเลี่ยงวัตถุหรือบุคคลนั้น มีผลตอการสื่อสารของมนุษยแอยางเห็นไดชัด ทัศนคติในการสื่อสารแบงเป็น 3 ประเภท ไดแก ทัศนคติตอตนเอง (Attitude Toward Self) ไดแก ความรูสึกในทางที่ดีตอตนเอง ของบุคคล อันจะทําใหผูสงสารนั้นเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง (Self Confidence) วาจะเป็นผูสงสารที่มีประสิทธิภาพได ทัศนคติตอเรื่องหรือประเด็นในการสื่อสาร (Attitude Toward Matters) ไดแก ความรูสึกในทางที่ดีตอเนื้อหาขาวสารที่ผูสงสารจะสงออกไป จะมีผลตอการใหความสนใจติดตามคนควาเรื่องตาง ๆ ที่ผูสงจะสง จะทําใหผูสงสารเป็นผูที่มีความรูดีในเรื่องนั้น ๆ ทําใหเป็นบุคคลที่นาเชื่อถือนาเลื่อมใสในสายของผูรับสารได

    1.3 ความรู (Knowledge) ของผูสงสารในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการสื่อสาร เรื่องที่จะสื่อสาร ลักษณะของผูรับสาร ลักษณะของสื่อและวิธีเลือกใชสื่อ และทัศนคติของตนเอง โดยเนนวา ความรูเกี่ยวกับการสื่อสารจะสงผลตอพฤติกรรมของการสื่อสาร

    1.4 ระบบสังคมและวัฒนธรรม (Social and Culture System) หมายถึง ผูสงสารเป็นบุคคลที่อาศัยอยูในสังคม มีกรอบ กฎ ระเบียบ ตลอดจนวิถีชีวิต ความเชื่อ คานิยม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งเป็นปใจจัยที่มีอิทธิพลตอความรู ประสบการณแ ความเชื่อ และคานิยม รวมทั้งพฤติกรรมของผูสงสารดวย สิ่งเหลานี้เป็นตัวหลอหลอมถึงบุคลิกลักษณะของพฤติกรรมบุคคล ในการแสดงออกตอบุคคลอื่น

    2. สาร (Message) หมายถึง ผลผลิตที่เกิดจากการเขารหัสของผูสงสาร นั้นประกอบดวย

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    10

    10

    2.1 รหัสของสาร (Message Code) หมายถึงกลุมของสัญลักษณแซึ่งใชแทน หรือใหหมายถึงสิ่งตาง ๆ ได เชน ภาษาเขียน ภาษาพูด ภาษาทาทาง รูปภาพ ดนตรี ฯลฯ

    2.2 เนื้อหาของสาร (Content) หมายถึง ขอความที่ตองการจะใชสื่อความหมายแกผูรับสาร

    2.3 การเลือกและจัดลําดับของขาวสารหรือจัดเสนอสาร (Treatment) หมายถึง การตัดสินใจเลือกและจัดลําดับของรหัสสารและเนื้อหา ไดแก ขาวสารที่จะนําเสนอใหเหมาะสมและสนองวัตถุประสงคแในการสื่อสาร

    3. ช่องทาง (Channel) หมายถึง ทางที่ทําใหผูสงสารและผูรับสารติดตอกันได นั่นคือ ประสาทสัมผัสทั้งหาเป็นเครื่องมือและอุปกรณแสื่อสารตาง ๆ เป็นตน (พัชนี เชยจรรยา และคณะ, 2541, น. 31)

    ในทรรศนะของเบอรแโล แบงชองทางออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ (สุรัตนแ ตรีสุกล, 2547, น. 75)

    3.1 ชองทางที่เป็นตัวกลางในการนําสารจากผูสงสารมายังผูรับสาร ไดแกคลื่นแสง คลื่นเสียง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศนแ หนังสือพิมพแ เป็นตน ชองทางเหลานี้เนนหนักในเรื่องสื่อเทคโนโลยี

    3.2 ชองทางซึ่งเป็นพาหะของสิ่งที่นําไปสูประสาทรับรูทั้ง 5 ของมนุษยแ ไดแก การเห็น การไดยิน การสัมผัส การไดกลิ่น และการลิ้มรส ตัวอยางเชน อากาศซึ่งเป็นตัวนําคลื่นเสียงสูประสาทรับการไดยิน ซึ่งชองทางประเภทนี้พบในกระบวนการสื่อสารระหวางบุคคล

    3.3 วิธีการเขารหัสและถอดรหัส เชนการใชวิธีพูด หรือวิธีเขียน เป็นตน 4. ผู้รับสาร (Receiver) หมายถึง บุคคลหรือกลุมบุคคลซึ่งไดรับสารที่ถูกสงมาจาก

    แหลงสาร ผูรับสารจะตองมีความสัมพันธแระหวางผูสงสารเสมอ ประกอบดวยคุณสมบัติทั้ง 4 ประการเชนเดียวกับผูสงสาร คือ ทักษะในการสื่อสาร ทัศนคติ ความรู ระบบสังคมและวัฒนธรรมกระบวนการสื่อสารจึงจะเกิดข้ึนได

    องคแประกอบที่กลาวมาเป็นไปตามแบบจําลองการสื่อสารของเดวิด เค เบอรแโล (David K. Berlo) ดังตอไปนี้

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    11

    11

    ภาพที่ 2.1 แบบจําลองการสื่อสารของเดวิด เค เบอรแโล (David K. Berlo). จาก แบบจ าลอง การสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โล, โดย ศุภรัศมิ์ ฐิติกุลเจริญ, สืบคนเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2558, จาก http://book.ram.edu/ebook/m/mc111/mc111_03_04.html

    องค์ประกอบของการสื่อสารของฮาโรลด์ ดี ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell ฮาโรลดแ ดี ลาสเวลลแ (Harold D. Lasswell, 1966, อางถึงใน ทวีศักดิ์ หงษแทอง, 2556,

    น. 18) อธิบายกระบวนการการสื่อสารเชิงพฤติกรรม เป็นการศึกษาปฏิกิริยาระหวางผูสงสารและผูรับสาร เนื้อหาขาวสารชนิดของสื่อ และผลที่เกิดจากการกระทําการสื่อสาร โดยเสนอวิธีอธิบายกิ จกรรม การสื่อสารดวยการตั้งคําถาม ดังนี้

    Who ใคร Says What พูดอะไร In Which Channel ดวยชองทางใด To Whom ถึงใคร With What Effects พรอมเกิดผลอะไร การสื่อสารมีองคแประกอบหลายประการ เพ่ือใหการถายทอดความหมายนั้นสมบูรณแ

    และสามารถทําการสื่อสารไดอยางเหมาะสมกับสถานการณแ โดยองคแประกอบของการสื่อสารมีดังนี้ 1. แหลงสาร (S = Sender) คือ ผูเริ่มตนการสื่อสารซึ่งการสื่อสารนั้นจะเกิดขึ้นโดยตั้งใจ

    หรือไมตั้งใจก็ได ผูสงสารเป็นคนแรกที่กําหนดเนื้อหาสาระวาตองการพูดอะไร จะมีวิธีการพูดอยางไร

  • Ref. code: 25595307030568QWD

    12

    12

    ผูสงสารจึงตองมีวัตถุประสงคแในการสื่อสารอยางชัดเจน มีความเขาใจเนื้อหาสาระของสารนั้นอยางดีพอที่จะสื่อสารกับผูรับสาร เมื่อสงสารไปแลวผูสงสารจะมองดูปฏิกิริยา การตอบกลับ (Feedback) ของผูรับสารวามีความเขาใจและมีปฏิกิริยาตอบกลับอยางไรกับสารที่สงไป ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับเป็น สวนสําคัญของการสื่อสาร เพราะทําใหผูสงสารสามารถประเมินการสื่อสารของตนวามีความชัดเจนหรือไมอยางไร

    2. สาร (M = Message) คือ สิ่งเราหรือการสรางความหมาย เชน การสื่อสารดวยคําพูด ประกอบดวยน้ําเสียงและอากัปกิริยาทาทางตามความรูสึก กอใหเกิดการรับรูรวมกันระหวางผูสงและผูรับสาร การที่ผูสงสารและผูรับสารมีทักษะในการสื่อสารใกลเคียงกันยอมทําใหเกิดการรับรูความหมายของสารนั้นตรงกันและเกิดปฏิกิริยาตอบกลับระหวางกัน สารไมไดประกอบดวยวิธีการที่เราพูดแตเพียงอยางเดียว แตละประกอบดวยการจัดประโยค อากัปกิริ ยาทางรางกาย น้ําเสียง กาลเทศะ บริบท และอุปสรรค สิ่งเหลานี้อาจทําใหเนื้อหาของสารยากท่ีจะฟใงหรือไดยิน

    3. ชองทาง (C = Channel) คือการสงสารโดยผานประสาทสัมผัสทางใดทางหนึ่งหรือหลายทางรวมกัน สวนสื่อนั้นมีอยูมากมายทั้งสื่อธรรมชาติ เชน แสง เสียง อากาศ �